๑
ประวัติพระสังฆาธิการ
ชื่อ
พระครูวัชรสารธรรม ฉายา อโนมปญฺโญ อายุ ๖๔ พรรษา ๔๓ ป. ๖
น.ธ. เอก วัดสารหิตาวาส ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลเขากระปุก-กลัดหลวง เจ้าอาวาส วัดสารหิตาวาส
สถานะเดิม
ชื่อ นายฉลวย นามสกุล แซ่โง้ว เกิด วันอาทิตย์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๗ ค่ำปี มะเส็ง
ตรงกับวันที่ ๑๗ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๖
บิดาชื่อ นายห่ง แซ่โง้ว มารดาชื่อ นางเลี้ยง แซ่งโง้ว
บ้านเลขที่ ๗ หมู่ ๒ ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
อุปสมบท
วันพุธ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ ปี ฉลู ตรงกับวันที่ ๑๑ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๑๖
วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ตำบลท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
พระอุปัชฌาย์ พระครูพิพิธพัชรศาสน์ วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง
ตำบลท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
พระกรรมวาจาจารย์ พระครูสาทรพัชรกิจ วัดสารหิตาวาส
ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
พระอนุสาวนาจารย์ พระสมุห์พิชิต วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง
ตำบลท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
๒
วิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๕๒๔ สอบไล่ได้ตามหลักสูตรประถมศึกษา
พระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จาก
โรงเรียนวัดสารหิตาวาส จังหวัดเพชรบุรี
พ.ศ. ๒๕๔๔ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดเพชรบุรี
ความรู้พิเศษ
การก่อสร้าง, ออกแบบอาคารทรงไทย, พิมพ์ดีดไทย,
ความชำนาญการ
ก่อสร้างงานไม้ งานปู ออกแบบการก่อสร้าง
งานปกครอง
พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้รับแต่งตั้งครูสอนพระปริยัติธรรม
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับแต่งตั้งรองเจ้าอาวาสวัดสารหิตาวาส
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์
พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูต ประจำอำเภอท่ายาง
พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับแต่งตั้งพระปลัดฉลวย อนโนมปญฺโญ
พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสารหิตาวาส
พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลเขากระปุก-กลัดหลวง
พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท
๓
พ.ศ. ๒๕๕๕ มีพระภิกษุ ๗ รูป สามเณร ๔ รูป
พ.ศ. ๒๕๕๖ มีพระภิกษุ ๑๒ รูป สามเณร ๓ รูป
พ.ศ. ๒๕๕๗ มีพระภิกษุ ๑๔ รูป สามเณร ๓ รูป
พ.ศ. ๒๕๕๘ มีพระภิกษุ ๑๖ รูป สามเณร ๒ รูป
พ.ศ. ๒๕๕๙ มีพระภิกษุ ๑๘ รูป สามเณร ๒ รูป
ทำอุโบสถสังฆกรรมตลอดปี
ทำวัตรเช้า-เย็น ตลอดปี
มีระเบียบการปกครองวัดเป็นไปตามพระธรรมวินัย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์
กฎมหาเถรสมาคม มีระเบียบและกฎของวัดหนองจอก ดังนี้
กฎการปฏิบัติ ของวัดหนองจอก
๑. ห้ามพระภิกษุสามเณรก่อการวิวาท กันเด็ดขาด ถ้าเกิดมีขึ้นโทษต้องลาสิกขา
๒. ห้ามพระภิกษุสามเณรเล่นการพนันทุกชนิด ถ้าเกิดมีขึ้นโทษต้องลาสิกขา
๓. ห้ามเล่นกีฬาทุกชนิดที่เป็นอาบัติโลกวัชชะ (ชาวบ้านติเตียน) และเสพสิ่งต่างๆ
อาทิเช่น ยาม้า, เฮโรอีน, กัญชา, ฝิ่น, ยาอี, กาว, ฯลฯ (หรือเลิกบุหรี่ด้วย)
ซึ่งทำให้เสียชื่อเสียง
๔. จะต้องไม่ขาดทำวัตรสวดมนต์ โดยไม่จำเป็น
๕. พระนวกะทุกรูปต้องเรียนธรรมวินัย
๖. เวลาที่มีกิจกรรมภายในวัด ต้องช่วยกันทำอย่างพร้อมเพรียง
๗. ไม่นำความเดือดร้อนมาสู่หมู่คณะ และวัด อันเป็นบ่อเกิดแห่งความแตกแยก
และเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่วัดและหมู่คณะ
๘. ไม่เป็นคนว่ายากสอนยาก ต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตน และยำเกรงต่อผู้อาวุโส
กว่าตนอยู่เสมอ มีความสามัคคีปรองดองกัน ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ควรอยู่อย่างพี่อย่างน้อง
๙. ไม่ประพฤตินอกรีดนอกรอย แสดงอาการอย่างคฤหัสถ์ หรือประพฤติอย่างอื่น
อันไม่เหมาะสมกับสมณะเพศ
๔
๑๐. เมื่อมีธุระจะไปนอกวัด เพื่อค้างคืน หรือมิได้ค้างคืนจะต้องบอกลาต่อเจ้า
อาวาสด้วยตนเอง หรือผู้ที่เจ้าอาวาสมอบหมาย และไปไม่เกิน ๗ วัน
๑๑. ต้องช่วยกันรักษาทรัพย์สมบัติของวัด ไม่ทำลายให้สิ่งของเสียหาย
๑๒. เมื่อนำสิ่งของของวัดไปใช้แล้วต้องทำความสะอาดรักษาให้อยู่ในสภาพดี
และเก็บไว้อย่างเดิมเป็นระเบียบเรียบร้อย
๑๓. ไม่ทิ้งขยะมูลฝอยตามใจตนเอง ต้องทิ้งในที่อันสมควร และต้องช่วยกัน
ทำความสะอาด ทั้งบนวัดและข้างล่าง ( บริเวณวัด ) ตลอดถึงความสะอาดใน
ห้องน้ำ ห้องสุขาถ้าผู้ใดฝ่าฝืนกฎระเบียบข้อใดข้อหนึ่งต้องถูกปรับโทษโดยเด็ด
ขาดดังต่อไปนี้
ครั้งที่ ๑ ว่ากล่าวตักเตือน
ครั้งที่ ๒ ทำโทษตามเห็นสมควร
ครั้งที่ ๓ ขับไล่ออกจากวัด หรือให้ลาสิกขา
ประกาศ ณ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๑
