จิตรกรรมฝาผนังศาลาการเปรียญวัดท่าคอย
จิตรกรรมฝาผนังศาลาการเปรียญวัดท่าคอย
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง บนศาลาการเปรียญ
ที่ตั้งจิตรกรรม เพดานห้องที่ ๒, ๓, ๔, และ ๕
ลักษณะอาคาร
ศาลาการเปรียญเป็นเรือนไม้ทรงไทยขนาดใหญ่ อยู่ด้านหลังพระอุโบสถหลังใหม่ตั้งหันไปยังทิศตะวันออก เป็นศาลาที่กำลังก่อสร้างขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่มีสภาพเก่าและชำรุดมาก
ศาลานี้ตั้งบนฐานปูนซีเมนต์ สูง ๑๕ เซนติเมตร ยกพื้นสูงประมาณ ๒ เมตรมีขนาดยาว ๘ ห้อง รองรับด้วยเสากลมขนาดใหญ่จำนวน ๓๒ ต้น ฝาด้านข้างเป็นฝาลูกพัก เจาะหน้าต่างห้องละ ๒ ช่อง รวมด้านละ ๑๖ ช่อง
สกัดด้านหน้ามีขนาดกว้าง ๔ ห้อง ๒ ห้องกลางเจาะประตู ๒ ประตู ๒ ห้อง ด้านข้างเจาะหน้าต่างห้องละ ๒ บาน ด้านนี้มีมุขก่ออิฐถือปูนยื่นออกมา กั้นด้วยพนักลูกกรง กระเบื้องเคลือบสีน้ำตาล มีบันไดขนาดใหญ่ก่ออิฐถือปูน ๑ ทาง
สกัดด้านหลังเจาะประตู ๑ ช่อง และหน้าต่าง ๒ ห้อง อีกห้องหนึ่งริมด้านซ้ายกั้นฝาทึบ
หลังคาทรงจั่วไม่มีขั้นลด ผืนหลังคาปีกนกแผ่ลาดลงทั้ง ๔ ด้าน มุงด้วยกระเบื้องดินเผา มีช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ หน้าบันไม่มีลวดลายใด
ลักษณะภายมีขนาด ๖ ห้อง มีเสากลมไม้มะค่าทาแชล็กมันรองรับขื่อจำนวน ๗ คู่และเสากลมอิงฝาจำนวน ๒๔ ต้น เพดานห้องที่ ๒, ๓, ๔, และ ๕ มีจิตรกรรมฝาผนังและมีธรรมาสน์จำหลักลงรักปิดทองตั้งอยู่ตรงกลางห้องที่ ๖ มีจารึกที่หน้ากระดานใต้กระจังปฏิภาณว่า “ นายสุข นางนวล ด.ช.ประชุมเหมือนหอม สร้างอุทิศให้พ่อแม่พี่น้องและผู้มีอุปการคุณทุกท่าน พ.ศ.๒๕๐๕ ’’
พื้นศาลาปูไม้กระดาน ด้านเหนือยกพื้นสูงเป็นอาสนสงฆ์ยาวตลอดด้าน คอสองและฝ้าปีกนกตีฝ้าสีขาวเดินเส้นสีน้ำตาลไหม้
ลักษณะจิตรกรรม จิตรกรรมที่เพดานศาลาการเปรียญ เป็นจิตรกรรมที่เขียนบนพื้นไม้ ถือรองพื้นด้วยดินสอพองผสมกาวไม่หนาหรือบางจนเกินไป ลักษณะของเนื้อที่ภาพจัดแบ่งเป็นห้อง ไม่เขียนเป็นเรื่องราว แต่จะเขียนลักษณะเป็นเรื่องของภาพประดับ ซึ่งแฝงด้วยคติธรรมบางอย่างค่อนข้างลึกซึ้งนัก
การจัดองค์ประกอบเป็นการจัดที่จะร่างภาพไม่มีความซับซ้อน หากคำนึงถึงช่องไฟและจังหวะเล็กและใหญ่ของตัวภาพและลายประกอบให้ได้สัดส่วนกับช่องไฟ มีการเน้นที่ส่วนสำคัญไว้ในกึ่งกลางภาพ โดยเขียนลวดลายหรือตัวลายประกอบบ้าง ตัวภาพสัตว์บางภาพ จัดวางภาพได้น้ำหนักทั้งด้านซ้ายและขวา ตัวภาพและตัวลายเท่ากันทั้งสองข้าง น้ำหนักของภาพจึงลงตัวโดยไม่มีด้านใดด้านหนึ่งหนักเกินไป ภาพทุกห้องจะล้อมรอบด้วยกรอบซึ่งเขียนเป็นลายดอกไม้และลายชายผ้า สีที่ใช้เป็นสีฝุ่นผสมกาว มีสีแดง ดำ เขียว เหลือง ขาว ไม่มีการปิดทองตัดเส้น ลักษณะของการใช้สีใช้สีได้อย่างสดใสเด็ดขาด สีสด ฯ เหล่านี้ถ้าเป็นการใช้ที่ขาดองค์ประกอบของภาพที่ดีแล้ว ก็จะเป็นตัวทำลายความสวยงามของภาพลงไปได้ แต่ภาพจิตรกรรมแห่งนี้ ช่างเขียนช่างเขียนจะต้องมีความสามารถมาก จึงใช้สีที่เขียนตัวภาพได้อย่างมีความงดงามและได้จังหวะของภาพด้วยจึงทำให้ภาพดูงามจับตาลักษณะการเขียน จะลงสีพื้นเป็นสีที่ไม่ไล่น้ำหนัก เป็นสีแบนฯ ภาพจะแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มกลุ่มแรกจะลงพื้นครามผสมดำ มี ๒ ห้อง และกลุ่มที่สองลงขาวเจือคราม ภามที่เขียนส่วนใหญ่จะเป็นภาพนกและสัตว์ในวรรณคดี เช่นหงส์ นกหัสดีลิงค์ นอกจากนั้นยังมีผีเสื้อและมีตัวภาพประกอบในจุดสำคัญด้วยแต่น้อยกว่าพวกรูปสัตว์ การเขียนจะใช้สีสด ฯ เขียนพื้นแล้วใช้ลักษณะเติมแวว โดยใช้สีที่เจือขาวทำให้อ่อนลงแต้มเป็นแวว และใช้สีที่หนักกว่าหรือมีการเพิ่มค่าสีให้มีสีหนักว่าสีพื้นตัดเส้น จึงเกิดเป็นภาพที่มีโครงสีเดียวกันทั้งหมด บางภาพก็ใช้สีที่มีโครงสีต่างกัน มาเขียนในตัวสัตว์ตัวเดียวกัน เช่นสีตัวนกสีครามและเติมแววสีครามอ่อน ส่วนปีกเป็นสีแดงและเติมแววสีแดงอ่อน และบางภาพจะตัดเส้นเลยโดยเอาสีของพื้นหลังเป็นพื้นของสีตัวสัตว์เลย ( พื้นหลังเป็นสีขาวเจือคราม ) นอกจากสัตว์แล้ว ยังเอายังนำเอาผลไม้ต่าง ฯ มาประดิษฐ์เป็นลวดลายได้อย่าง งดงามมาก เช่น เอามังคุด ชมพู่ น้อยหน่า และดอกไม้อื่นฯ ซึ่งดูแล้วเป็นความคิดที่ดีมาก และไม่ซ้ำกันเลย ที่น่าชมอีกอย่างหนึ่ง คือเอาดอกกล้วยไม้มาออกลายกรอบที่ล้อมรอบ ซึ่งดูแล้วจะเหมือนค้างคาวมากแต่เมื่อดูอย่างเจาะจงแล้วจะเป็นดอกกล้วยไม้ เส้นที่ตัดทั้งเส้นรอบตัวและเส้นรายละเอียดของตัวสัตว์ เป็นเส้นที่ได้ขนาดและสัดส่วนมาก มีทั้งเส้นเอกและเส้นโท กลมกลืนไปตลอดทั้งตัวและสวยงามมาก
ส่วนตัวภาพที่เป็นตัวยักษ์และตัวพระตัวนางนั้น ก็เขียนได้ดีมากทั้งสัดส่วนของตัวและลีลาตัวภาพก็ไม่ได้ปิดทองตัดเส้น แต่จะใช้สีเหลืองแทนทอง เส้นที่ตัดก็เป็นเส้นสีแดง และได้ขนาดของตัวภาพ การตัดเส้นก็ได้จังหวะและอ่อนช้อยมาก ส่วนการเขียนลายผ้าและเครื่องประดับก็เขียนอย่างประณีตมาก สวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาพสัตว์และดอกไม้เลย
เรื่อง นกหัสดีลิงค์โฉบนาง กระต่ายในดวงจันทร์ ราชรถพระจันทร์ นกยูงในดวงดาวกลางล้อมด้วยเทพอัปสรและรามสูรเมขลา
การลำดับภาพ แพดานศาลาเก่านั้นมี ๔ ห้อง เมื่อนำมาปรับปรุงใหม่ได้ขยายเป็น ๖ ห้อง ห้องที่ ๑ และห้องที่ ๖ เป็นส่วนที่เสริมขึ้น และเพดานเก่าได้นำมาปรุงไว้ในห้องที่ ๒ – ๔ การลำดับภาพลายเพดานตามลำดับตั้งแต่ห้องที่ ๒ – ๔ มีดังนี้
ห้องที่ ๒ มีดาวใหญ่ ๗ ดาวเล็ก ๘ ดวง ดาวใหญ่ตรงกลางมีภาพนกยูงรำแพนระหว่างนกยูงเป็นภาพรามสูรเมขลา ส่วนอีก ๔ ดอกรอบนอกของดวงกลางเป็นเทพและนางอัปสร ดาวเล็กเขียนลาย และระหว่างช่องไฟของดาวทุกดวงเขียนภาพนกต่าง ฯ ตรงมุมห้องภาพเขียนค้างคาว กรอบรอบนอกเขียนลายช่อดอกไม้ สีพื้นหลังเป็นสีเทาหม่น
ห้องที่ ๓ มีดาวใหญ่ตรงกลาง ภายในดวงดาวเขียนภาพพระจันทร์ทรงราชรถ และมีดาวน้อยใหญ่ล้อมอยู่อีก ๑๔ ดวง ระหว่างดวงดาวเป็นภาพนกต่าง ฯ ไก่ฟ้า ผีเสื้อ ลายล้อมรอบห้องภาพเป็นลายช่อดอกไม้สลับลายดอกพุดตานดอกโตเด่น ตรงมุมลายกรอบเป็นภาพค้างคาวสีพื้นหลังภาพเป็นสีครามหม่น
ห้องที่ ๔ ตรงกลางเป็นภาพกระต่ายอยู่ในดวงดาว มีภาพนก ( ลักษณะคล้ายไก่ ) และผีเสื้อสลับกันล้อมดวงดาวกลางอยู่ และ รอบนอกมีช่อดอกไม้สลับกับนกอีกชั้นหนึ่ง ตรงมุมเป็นลายดาว ระหว่างลายดาวคู่มุมเป็นภาพนกกระสาคาบปลากัน อีกด้านหนึ่งเป็นนกกระสาคาบปูมุมห้องเป็นลายดอกพุดตานใบเทศ เขียนในทรงสามเหลี่ยมมุมฉากและมีลายกรอบล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง ลายกรอบเป็นลายเชิงผ้ารูปสามเหลี่ยม ประกอบลายดอกพุดตานและดอกสี่กลีบ พื้นห้องใช้สีขาว ลดความจ้าด้วยการเจือฟ้าเพียงเล็กน้อย ยังเห็นเป็นขาวอยู่แต่มีน้ำหนักไม่โดด
ห้องที่ ๕ ห้องนี้ไม่มีดวงดาว แต่เขียนภาพนกอยู่ตรงกลางห้อง นกหัสดีลิงค์จับนางพาบินไปล้อมรอบนกใหญ่ด้วยนกอื่น ฯ เป็นจังหวะตามองค์ประกอบที่งามลงตัวพอดี มุมห้องทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นภาพนกบินโฉบเด็กผมผมจุก กรอบล้อมรอบห้องภาพเป็นลายเชิงผ้าคล้ายห้องที่ ๔ สีพื้นห้องเป็นสีขาวเช่นเดียวกัน
คุณค่า จิตรกรรมสีฝุ่นเขียนบนไม้ฝ้าเพดานศาลาแห่งนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ชิ้นหนึ่งโดย
ลักษณะจิตรกรรมแล้วคุณค่าและความสำคัญสูงมาก ความงามของจิตรกรรมนั้น
บริสุทธิ์สมบูรณ์แบบ ยากที่จะหาจิตรกรรมบนเพดานใด ฯ มาเปรียบเทียบได้ การวางจังหวะองค์ประกอบ ความลงตัวของสัดส่วน ความงามของตัวภาพ ความประณีตของลวดลาย และความสัมพันธ์ของสี ทุกสิ่งที่สร้างสรรค์ไว้มีคุณค่าเป็นสุนทรียศาสตร์
การศึกษาวิจัยและวิเคราะห์จิตรกรรม เป็นการพิจารณางานที่มีความวิจิตรและละเอียดอ่อนอยู่ทุกส่วนของจิตรกรรม สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการศึกษาวิจัยวิเคราะห์และนำคุณค่านี้เผยแพร่ให้คนทั้งหลายได้มีโอกาสรับประโยชน์นี้ให้กว้างขวางจริงจังต่อไป
สภาพ ยังอยู่ในสภาพค่อนข้างดี ชั้นสีแข็งแรง มีรอยชำรุดและกระทบกระเทือนหลายแห่ง เนื่องจากการรื้อย้าย จากศาลาการเปรียญหลังเก่ามาปรับปรุงขึ้นใหม่ และประกอบไว้ ณ เพดานศาลาใหม่ อย่างไรก็ดีความชำรุดนั้น ไม่ทำให้ภาพเสียลักษณะมากนัก ภาพยังงามวิเศษ ผิวจิตรกรรมมีลักษณะหมองคล้ำตามลักษณะความเก่าแก่ ซึ่งหากได้ทำการอนุรักษ์ทำความ สะอาดแล้วจะช่วยให้แจ่มใสดีขึ้น
พื้นที่จิตรกรรม เพดานขนาดห้องเท่ากัน จำนวน ๔ ห้อง ๓๔ . ๕๖ ตารางเมตร
กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นสมบัติของโบราณสถานแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๒๖
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง บนศาลาการเปรียญ
ที่ตั้งจิตรกรรม เพดานห้องที่ ๒, ๓, ๔, และ ๕
ลักษณะอาคาร
ศาลาการเปรียญเป็นเรือนไม้ทรงไทยขนาดใหญ่ อยู่ด้านหลังพระอุโบสถหลังใหม่ตั้งหันไปยังทิศตะวันออก เป็นศาลาที่กำลังก่อสร้างขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่มีสภาพเก่าและชำรุดมาก
ศาลานี้ตั้งบนฐานปูนซีเมนต์ สูง ๑๕ เซนติเมตร ยกพื้นสูงประมาณ ๒ เมตรมีขนาดยาว ๘ ห้อง รองรับด้วยเสากลมขนาดใหญ่จำนวน ๓๒ ต้น ฝาด้านข้างเป็นฝาลูกพัก เจาะหน้าต่างห้องละ ๒ ช่อง รวมด้านละ ๑๖ ช่อง
สกัดด้านหน้ามีขนาดกว้าง ๔ ห้อง ๒ ห้องกลางเจาะประตู ๒ ประตู ๒ ห้อง ด้านข้างเจาะหน้าต่างห้องละ ๒ บาน ด้านนี้มีมุขก่ออิฐถือปูนยื่นออกมา กั้นด้วยพนักลูกกรง กระเบื้องเคลือบสีน้ำตาล มีบันไดขนาดใหญ่ก่ออิฐถือปูน ๑ ทาง
สกัดด้านหลังเจาะประตู ๑ ช่อง และหน้าต่าง ๒ ห้อง อีกห้องหนึ่งริมด้านซ้ายกั้นฝาทึบ
หลังคาทรงจั่วไม่มีขั้นลด ผืนหลังคาปีกนกแผ่ลาดลงทั้ง ๔ ด้าน มุงด้วยกระเบื้องดินเผา มีช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ หน้าบันไม่มีลวดลายใด
ลักษณะภายมีขนาด ๖ ห้อง มีเสากลมไม้มะค่าทาแชล็กมันรองรับขื่อจำนวน ๗ คู่และเสากลมอิงฝาจำนวน ๒๔ ต้น เพดานห้องที่ ๒, ๓, ๔, และ ๕ มีจิตรกรรมฝาผนังและมีธรรมาสน์จำหลักลงรักปิดทองตั้งอยู่ตรงกลางห้องที่ ๖ มีจารึกที่หน้ากระดานใต้กระจังปฏิภาณว่า “ นายสุข นางนวล ด.ช.ประชุมเหมือนหอม สร้างอุทิศให้พ่อแม่พี่น้องและผู้มีอุปการคุณทุกท่าน พ.ศ.๒๕๐๕ ’’
พื้นศาลาปูไม้กระดาน ด้านเหนือยกพื้นสูงเป็นอาสนสงฆ์ยาวตลอดด้าน คอสองและฝ้าปีกนกตีฝ้าสีขาวเดินเส้นสีน้ำตาลไหม้
ลักษณะจิตรกรรม จิตรกรรมที่เพดานศาลาการเปรียญ เป็นจิตรกรรมที่เขียนบนพื้นไม้ ถือรองพื้นด้วยดินสอพองผสมกาวไม่หนาหรือบางจนเกินไป ลักษณะของเนื้อที่ภาพจัดแบ่งเป็นห้อง ไม่เขียนเป็นเรื่องราว แต่จะเขียนลักษณะเป็นเรื่องของภาพประดับ ซึ่งแฝงด้วยคติธรรมบางอย่างค่อนข้างลึกซึ้งนัก
การจัดองค์ประกอบเป็นการจัดที่จะร่างภาพไม่มีความซับซ้อน หากคำนึงถึงช่องไฟและจังหวะเล็กและใหญ่ของตัวภาพและลายประกอบให้ได้สัดส่วนกับช่องไฟ มีการเน้นที่ส่วนสำคัญไว้ในกึ่งกลางภาพ โดยเขียนลวดลายหรือตัวลายประกอบบ้าง ตัวภาพสัตว์บางภาพ จัดวางภาพได้น้ำหนักทั้งด้านซ้ายและขวา ตัวภาพและตัวลายเท่ากันทั้งสองข้าง น้ำหนักของภาพจึงลงตัวโดยไม่มีด้านใดด้านหนึ่งหนักเกินไป ภาพทุกห้องจะล้อมรอบด้วยกรอบซึ่งเขียนเป็นลายดอกไม้และลายชายผ้า สีที่ใช้เป็นสีฝุ่นผสมกาว มีสีแดง ดำ เขียว เหลือง ขาว ไม่มีการปิดทองตัดเส้น ลักษณะของการใช้สีใช้สีได้อย่างสดใสเด็ดขาด สีสด ฯ เหล่านี้ถ้าเป็นการใช้ที่ขาดองค์ประกอบของภาพที่ดีแล้ว ก็จะเป็นตัวทำลายความสวยงามของภาพลงไปได้ แต่ภาพจิตรกรรมแห่งนี้ ช่างเขียนช่างเขียนจะต้องมีความสามารถมาก จึงใช้สีที่เขียนตัวภาพได้อย่างมีความงดงามและได้จังหวะของภาพด้วยจึงทำให้ภาพดูงามจับตาลักษณะการเขียน จะลงสีพื้นเป็นสีที่ไม่ไล่น้ำหนัก เป็นสีแบนฯ ภาพจะแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มกลุ่มแรกจะลงพื้นครามผสมดำ มี ๒ ห้อง และกลุ่มที่สองลงขาวเจือคราม ภามที่เขียนส่วนใหญ่จะเป็นภาพนกและสัตว์ในวรรณคดี เช่นหงส์ นกหัสดีลิงค์ นอกจากนั้นยังมีผีเสื้อและมีตัวภาพประกอบในจุดสำคัญด้วยแต่น้อยกว่าพวกรูปสัตว์ การเขียนจะใช้สีสด ฯ เขียนพื้นแล้วใช้ลักษณะเติมแวว โดยใช้สีที่เจือขาวทำให้อ่อนลงแต้มเป็นแวว และใช้สีที่หนักกว่าหรือมีการเพิ่มค่าสีให้มีสีหนักว่าสีพื้นตัดเส้น จึงเกิดเป็นภาพที่มีโครงสีเดียวกันทั้งหมด บางภาพก็ใช้สีที่มีโครงสีต่างกัน มาเขียนในตัวสัตว์ตัวเดียวกัน เช่นสีตัวนกสีครามและเติมแววสีครามอ่อน ส่วนปีกเป็นสีแดงและเติมแววสีแดงอ่อน และบางภาพจะตัดเส้นเลยโดยเอาสีของพื้นหลังเป็นพื้นของสีตัวสัตว์เลย ( พื้นหลังเป็นสีขาวเจือคราม ) นอกจากสัตว์แล้ว ยังเอายังนำเอาผลไม้ต่าง ฯ มาประดิษฐ์เป็นลวดลายได้อย่าง งดงามมาก เช่น เอามังคุด ชมพู่ น้อยหน่า และดอกไม้อื่นฯ ซึ่งดูแล้วเป็นความคิดที่ดีมาก และไม่ซ้ำกันเลย ที่น่าชมอีกอย่างหนึ่ง คือเอาดอกกล้วยไม้มาออกลายกรอบที่ล้อมรอบ ซึ่งดูแล้วจะเหมือนค้างคาวมากแต่เมื่อดูอย่างเจาะจงแล้วจะเป็นดอกกล้วยไม้ เส้นที่ตัดทั้งเส้นรอบตัวและเส้นรายละเอียดของตัวสัตว์ เป็นเส้นที่ได้ขนาดและสัดส่วนมาก มีทั้งเส้นเอกและเส้นโท กลมกลืนไปตลอดทั้งตัวและสวยงามมาก
ส่วนตัวภาพที่เป็นตัวยักษ์และตัวพระตัวนางนั้น ก็เขียนได้ดีมากทั้งสัดส่วนของตัวและลีลาตัวภาพก็ไม่ได้ปิดทองตัดเส้น แต่จะใช้สีเหลืองแทนทอง เส้นที่ตัดก็เป็นเส้นสีแดง และได้ขนาดของตัวภาพ การตัดเส้นก็ได้จังหวะและอ่อนช้อยมาก ส่วนการเขียนลายผ้าและเครื่องประดับก็เขียนอย่างประณีตมาก สวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาพสัตว์และดอกไม้เลย
เรื่อง นกหัสดีลิงค์โฉบนาง กระต่ายในดวงจันทร์ ราชรถพระจันทร์ นกยูงในดวงดาวกลางล้อมด้วยเทพอัปสรและรามสูรเมขลา
การลำดับภาพ แพดานศาลาเก่านั้นมี ๔ ห้อง เมื่อนำมาปรับปรุงใหม่ได้ขยายเป็น ๖ ห้อง ห้องที่ ๑ และห้องที่ ๖ เป็นส่วนที่เสริมขึ้น และเพดานเก่าได้นำมาปรุงไว้ในห้องที่ ๒ – ๔ การลำดับภาพลายเพดานตามลำดับตั้งแต่ห้องที่ ๒ – ๔ มีดังนี้
ห้องที่ ๒ มีดาวใหญ่ ๗ ดาวเล็ก ๘ ดวง ดาวใหญ่ตรงกลางมีภาพนกยูงรำแพนระหว่างนกยูงเป็นภาพรามสูรเมขลา ส่วนอีก ๔ ดอกรอบนอกของดวงกลางเป็นเทพและนางอัปสร ดาวเล็กเขียนลาย และระหว่างช่องไฟของดาวทุกดวงเขียนภาพนกต่าง ฯ ตรงมุมห้องภาพเขียนค้างคาว กรอบรอบนอกเขียนลายช่อดอกไม้ สีพื้นหลังเป็นสีเทาหม่น
ห้องที่ ๓ มีดาวใหญ่ตรงกลาง ภายในดวงดาวเขียนภาพพระจันทร์ทรงราชรถ และมีดาวน้อยใหญ่ล้อมอยู่อีก ๑๔ ดวง ระหว่างดวงดาวเป็นภาพนกต่าง ฯ ไก่ฟ้า ผีเสื้อ ลายล้อมรอบห้องภาพเป็นลายช่อดอกไม้สลับลายดอกพุดตานดอกโตเด่น ตรงมุมลายกรอบเป็นภาพค้างคาวสีพื้นหลังภาพเป็นสีครามหม่น
ห้องที่ ๔ ตรงกลางเป็นภาพกระต่ายอยู่ในดวงดาว มีภาพนก ( ลักษณะคล้ายไก่ ) และผีเสื้อสลับกันล้อมดวงดาวกลางอยู่ และ รอบนอกมีช่อดอกไม้สลับกับนกอีกชั้นหนึ่ง ตรงมุมเป็นลายดาว ระหว่างลายดาวคู่มุมเป็นภาพนกกระสาคาบปลากัน อีกด้านหนึ่งเป็นนกกระสาคาบปูมุมห้องเป็นลายดอกพุดตานใบเทศ เขียนในทรงสามเหลี่ยมมุมฉากและมีลายกรอบล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง ลายกรอบเป็นลายเชิงผ้ารูปสามเหลี่ยม ประกอบลายดอกพุดตานและดอกสี่กลีบ พื้นห้องใช้สีขาว ลดความจ้าด้วยการเจือฟ้าเพียงเล็กน้อย ยังเห็นเป็นขาวอยู่แต่มีน้ำหนักไม่โดด
ห้องที่ ๕ ห้องนี้ไม่มีดวงดาว แต่เขียนภาพนกอยู่ตรงกลางห้อง นกหัสดีลิงค์จับนางพาบินไปล้อมรอบนกใหญ่ด้วยนกอื่น ฯ เป็นจังหวะตามองค์ประกอบที่งามลงตัวพอดี มุมห้องทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นภาพนกบินโฉบเด็กผมผมจุก กรอบล้อมรอบห้องภาพเป็นลายเชิงผ้าคล้ายห้องที่ ๔ สีพื้นห้องเป็นสีขาวเช่นเดียวกัน
คุณค่า จิตรกรรมสีฝุ่นเขียนบนไม้ฝ้าเพดานศาลาแห่งนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ชิ้นหนึ่งโดย
ลักษณะจิตรกรรมแล้วคุณค่าและความสำคัญสูงมาก ความงามของจิตรกรรมนั้น
บริสุทธิ์สมบูรณ์แบบ ยากที่จะหาจิตรกรรมบนเพดานใด ฯ มาเปรียบเทียบได้ การวางจังหวะองค์ประกอบ ความลงตัวของสัดส่วน ความงามของตัวภาพ ความประณีตของลวดลาย และความสัมพันธ์ของสี ทุกสิ่งที่สร้างสรรค์ไว้มีคุณค่าเป็นสุนทรียศาสตร์
การศึกษาวิจัยและวิเคราะห์จิตรกรรม เป็นการพิจารณางานที่มีความวิจิตรและละเอียดอ่อนอยู่ทุกส่วนของจิตรกรรม สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการศึกษาวิจัยวิเคราะห์และนำคุณค่านี้เผยแพร่ให้คนทั้งหลายได้มีโอกาสรับประโยชน์นี้ให้กว้างขวางจริงจังต่อไป
สภาพ ยังอยู่ในสภาพค่อนข้างดี ชั้นสีแข็งแรง มีรอยชำรุดและกระทบกระเทือนหลายแห่ง เนื่องจากการรื้อย้าย จากศาลาการเปรียญหลังเก่ามาปรับปรุงขึ้นใหม่ และประกอบไว้ ณ เพดานศาลาใหม่ อย่างไรก็ดีความชำรุดนั้น ไม่ทำให้ภาพเสียลักษณะมากนัก ภาพยังงามวิเศษ ผิวจิตรกรรมมีลักษณะหมองคล้ำตามลักษณะความเก่าแก่ ซึ่งหากได้ทำการอนุรักษ์ทำความ สะอาดแล้วจะช่วยให้แจ่มใสดีขึ้น
พื้นที่จิตรกรรม เพดานขนาดห้องเท่ากัน จำนวน ๔ ห้อง ๓๔ . ๕๖ ตารางเมตร
กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นสมบัติของโบราณสถานแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๒๖
โดย :
ที่อยู่ :
ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
จำนวนเข้าดู :
2374
ปรับปรุงล่าสุด :
2 มิถุนายน พ.ศ. 2561 09:08:24
ข้อมูลเมื่อ :
2 มิถุนายน พ.ศ. 2561 09:08:24