วัด
พระอารามหลวง
14 วัด
วัดราษฎร์
413 วัด
สำนักสงฆ์
8 วัด
ที่พักสงฆ์
18 วัด
วัดร้าง
3 วัด
วัดทั้งหมด
456 วัด
ศาสนบุคคลไทย
พระภิกษุ
256 รูป
สามเณร
33 รูป
แม่ชี
9 รูป
ภิกษุณี
0 รูป
สามเณรี
0 รูป
ศิษย์วัด
0 คน
บุคคลทั่วไปชาย
5 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
303 รูป/คน
ศาสนบุคคลต่างชาติ
พระภิกษุ
0 รูป
สามเณร
0 รูป
แม่ชี
0 รูป
ภิกษุณี
0 รูป
สามเณรี
0 รูป
ศิษย์วัด
0 คน
บุคคลทั่วไปชาย
0 คน
บุคคลทั่วไปหญิง
0 คน
ทั้งหมด
0 รูป/คน
สถิติสถานภาพพระภิกษุปัจจุบัน
พระบวชใหม่
215 รูป
ลาสิกขา
9 รูป
มรณภาพ
3 รูป
รายชื่อวัด
ที่สามารถเข้าระบบได้ล่าสุด
จ. สุพรรณบุรี
วันที่ 14-03-2567
จ. ราชบุรี
วันที่ 24-02-2567
จ. เชียงราย
วันที่ 13-02-2567
จ. สิงห์บุรี
วันที่ 13-02-2567
จ. พิษณุโลก
วันที่ 13-02-2567
จ. พิจิตร
วันที่ 29-01-2567
จ. อุบลราชธานี
วันที่ 25-01-2567
จ. เชียงราย
วันที่ 13-01-2567
จ. สุพรรณบุรี
วันที่ 15-11-2566
สาเหตุที่จัดทำ นิยายแห่ง..ชีวิต..ธรรม.คำสอนเตี่ย..ตามรอยพ่อหลวง..
ความพอเพียงของคนแต่ละคนนั้นต่างกัน บางคนความพอเพียงคือฟุ่งเฟือยได้ตามปารถนา แต่บางคนพอเพียงคือมีอยู่กินที่ดี มีข้าวกินครบ 3 มื้อ ได้กินอาหารที่สะอาดมีคุณค่า ได้อิ่มท้อง มีเงินเก็บ สามรารถเลี้ยงดูให้ความรักและความรู้แก่ลูก หลาน ที่เกิดแต่ความรักของตนได้ รวมไปถึง ญาติ พี่ น้อง และ คนรอบข้าง


นิยายเรื่องนี้ผมเขียนขึ้นเล่าบทชีวิตๆของคนที่แม้ยากจนไม่่ไม่อัปจนหนทาง เพื่อหวังให้เป็นแรงบรรดาลใจแก่ใครหลายๆคนที่มีความทุกข์ ท้อแท้ สิ้นหวัง เกลียดชัง กับชะตาชีวิตที่ทำให้ตนทุกข์ยากลำบากหรือฉิบหาย ได้เข้ามาอ่านแล้วเห็นทางดำเนินชีวิตให้ยืนหยัดต่อไปได้ของตน


นิยายเรื่องนี้ จะประะกอบไปด้วย คำสอนของเตี่ย พระธรรมคำสอนจากครูบา่อาจารย์ และขอพระราชททานอันเชิญเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชมาชี้นำทางประกอบไปด้วย ซึ่งคนไทยทุกคนทั่วประเทศย่อมได้น้อมนำเอาพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมาใช้บริหาร ส่งเสริมทักษะ สั่งสอนต่อกัน ทั้งในระดับประเทศ จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว หรือภายในองค์กรต่างๆทั่วประเทศ
เตี่ยผมนี้ท่านได้นำเอาประสบการณ์ชีวิต พระธรรมของพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ทั้งหลาย และพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบางช่วงบางตอน มาชี้นำสั่งสอนผมตั้งแต่เมื่อผมยังเด็ก ปัจจุบันเตี่ยผมท่านถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ อายุรวม ๙๐ ปี แต่กระนั้นถึงร่างกาย ซุ่มเสียงทุกอย่างของท่านไม่มีอยู่แล้ว เลือนหายไปแล้ว แต่คำสอนของท่านนั้นยังคงอยู่ให้ผมได้เจริญปฏิบัติเอาตัวรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วการต่อสู้ไม่ย่อท้อแก้ไขปัญหาของผมนั้นก็เป็นอีกคำสอนบทหนึ่งที่จะใช้สอนลูกหลานผมสืบไป
ซึ่งผมยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันคำสอนดีๆจาก พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ และ คำสั่งสอนของเตี่ยผม...แก่ท่านทั้งหลายทั้งที่รู้เพื่อเป็นแนวทาง ทั้งท่านที่ประสบปัญหาชีวิตเลวร้าย และ ท่านผู้แวะเวียนเยี่ยมชมทุกๆท่านครับ


--------------------------------------------------------------------------------------



เกริ่นนำ..

 
ณ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ มีครอบครัวๆหนึ่ง มีพ่อกับแม่และลูก 8 คน มีลูกสาว 6 คน ลูกชาย 2 คน ผู้เป็นพ่อเป็นคนจีน ลูกๆเรียกท่านว่าเตี่ย ท่านทำงานเป็นเสมียนอยู่โรงน้ำปลามีรถจักรยานปั่นไปกลับที่ทำงานซึ่งห่างกันประมาณ 3.5 กม. รวมไปกลับ 7 กม. ส่วนผู้เป็นแม่เป็นคนไทยจังหวัดสกลนคร ลูกๆเรียกท่านว่าแม่ ท่านเปิดร้านขายส้มตำไก่ย่าง สมัยนั้นส้มตำถุงละ 3 บาท ไก่ไม้ใหญ่ ไม่ละ 10 บาท เช่าบ้านเป็นห้องแถวของคนจีนอยู่หลังหนึ่งเดือนละ 500 บ. มีฐานะไม่ได้ร่ำรวยเช้าชามเย็นชาม แต่เพราะความไม่ร่ำรวยนี้แหละ ทำให้เข้าใจความพอเพียง และ ฝึกฝนตนเองให้ครอบครัวนี้เป็นคนต่อสู้ปัญญา ไม่หนีปัญหา มีความ เอื้อเฟื้อ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน แล้วกค่อยๆก่อร่างสร้างเนื้อสร้างตัวถึงความพอเพียงได้


--------------------------------------------------------------------------------------


 
บทเรียนเริ่มเรื่อง...ความทรงจำหลักในคำสอนเตี่ย

ก่อนอื่นผมขอแจ้งรายละเอียดตัวละครก่อนนะครับ ผมจะเป็นลูกคนสุดท้อง ชื่อ ก๊กเฮง เพื่อดำเนืนเรื่องราวในบท..นิยายแห่ง..ชีวิต..ธรรม..คำเตี่ยสอน..ตามรอยพ่อหลวง.. นี้ครับ

"ผมชื่อก๊กเฮง แซ่โง้ว ..ก๊กเฮง แปลว่า ดาวประจำเมือง หรือ ความเจริญของบ้านเมือง เตี่ยตั้งเป็นชื่อจีนให้" มีพี่น้องอยู่ด้วยกันรวมผมเป็น 8 คน มี พี่สาว 6 คน พี่ชาย 1 คน คือ
1. เจ้ตุ๋ย
2. เจ้ต๋อย
3. เจ้จิน
4. เจ้นุช
5. เจ้โม
6. เจ้นิด
7. เฮียตี๋
8. ผมเป็นน้องคนสุดท้อง

เตี่ยผมอายุมากกว่าแม่ 20 ปี ผมเกิดขึ้นมาต้อนเตี่ยอายุประมาณจะเกือบ 60 ปีแล้ว แม้ผมก็อายุประมาณเกือบจะ 40 ปีแล้ว ผมอายุห่างจากพี่คนที่ 7 ประมาณ 10 ปี ตอนผมเกิดมาทางบ้านก็ก็เริ่มจะพยุงครอบครัวให้มีอยู่พอกินพอใช้กันได้แล้ว เพราะทุกคนรู้ประหยัด ขยันทำงาน อดออมเงิน หารายได้เสริมอยู่เสมอๆ
เตี่ยผมมักจะสั่งสอนผมอยู่เสมอๆว่า..บ้านเราไม่ใช่คนรวยเมื่อก่อนแทบจะไม่มีอยู่ไม่มีกิน ใช้เวลาอยู่นานจนวันนี้เริ่มอยู่กินแบบพอเพียง ที่เป็นแบบนี้ได้เพราะทุกข์คน มีความรู้จัก "เอื้อเฟื้อแบ่งปัน, ซื่อสัตย์, ขยัน, อดทน" จึงทำให้บ้านเรามีฐานะดีขึ้นอยู่กินดีขึ้น เราเป็นลูกคนจีนต้องยึดข้อนี้ไว้ให้มั่น ดังนั้นก๊กเฮงก็ต้องปฏิบัติเจริญรอยตามเพื่อตัวก๊กเฮงเองไม่ใช่ใครอื่น ก๊กเฮงเกิดมาในช่วงที่บ้านมีกินที่ดีขึ้นแล้วเป็นลูกคนสุดท้องที่เจ้ๆและอาเฮียรัก แต่ก๊กเฮง "อย่าลืมตัว จะต้องรู้จัก กตัญญูกตเวทีรู้บุญคุณคน, มีปกติอ่อนน้อมมถ่อมตัว, รู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัดพอเพียง, อดออม" เพราะวันหนึ่งต้องเป็นที่พึ่งของทุกคนในบ้านจำไว้ให้ดีนะลูกวันหนึ่งเมื่อก๊กเฮงมีครอบครัว มีลูก สิ่งที่ก๊กเฮงปฏิบัติประสบการณ์ที่ควรค่ายิ่งของก๊กเฮงนั้นแหละจะเป็นคำสอนของลูกสืบไป

ผมก็เจริญปฏิบัติตามคำสอนที่เตี่ยสอนนี้เสมอมาเรื่องนี้สืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ผมจะหาเช้ากินค่ำ มีพอกินบ้าง ไม่พอกินบ้าง กินได้อิ่มบ้าง ทำพลาดพลั้งบ้างแต่ด้วยคำเตี่ยสอนที่ผมจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ได้ประครองให้ชีวิตผมไม่อับจนตกอับ...

บทเรียกนี้แบ่งเป็น ๒ ภาคการเรียนดังนี้
๑. "ภาคการเรียนที่ ๑. เตี่ยสอนก๊กเฮง"
..เป็นเรื่องราวคำสอนสมัยที่ผมยังเด็ก จนเรียนจบ ทำงาน

(ปัญหาและคำสอนในภาคเรียนที ๑ นี้ จะเกิดมีต่างๆนาๆซึ่งปัญหาในแต่ละช่วงอายุและวัยก็จะต่างกันไป ซึ่งเริ่มจากเด็กที่เรียบง่ายไม่ประสีประสาอะไร ไม่คิดอะไรมาก อยู่กับปัจจุบันมากกว่าความคิดอ่าน นอนหลับตื่นมาก็ลืม พูดและฟังง่ายๆตามประสาเด็ก ตลอดไปจนถึงเมื่อเจริญวัยปัญหาก็จะเริ่มหนักขึ้นๆเรื่อยๆ มัธยมต้น เรียนช่าง ที่สุดจนถึงเมื่อตอนทำงานก่อนที่จะแต่งงานซึ่งจะหนักมากขึ้นไปอีกตามช่วงเวลา)
๒. "ภาคการเรียนที่ ๒. ปะป๊าสอนเป๋าเป่า"
..เป็นเรื่องราวคำสอนของก๊กเฮงที่สอนลูกชายเพียงคน้เดียว คือ อั่งเปา จากประสบการณ์ชีวิตความผิดพลาด โชคชะตา การแก้ไขปัญญา ความตั้งมั่นริเริ่ม ความเพียรกระทำที่ยึดมั่นคำสอนของเตี่ย พระธรรมของพระพุทธเจ้า และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ ที่ทำให้พยุงตนเองผ่านจากความฉิบหายมาได้ จนสามารถเลี้ยงดูอั่งเปามาได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยเงินเดือนเพียง 8,900 บาท ตั้งแต่ปี 2549 - กลางปี 2559 และ เพิ่ง ได้เงินเดือน 11,000 เมื่อประมาณกลางปี 2559 นี้เอง แต่ไม่เคยเคียดแค้นท้อใจที่ตนนั้นไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่น ไม่ร่ำรวยเหมือนเขา ยิ่งกลับภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกเตี่ยและแม่ เป็นพ่อ เป็น สามี เป็นน้องของพี่ๆทั้ง ๗ คน เพราะมันคือปัจจัยสำคัญให้เราโตและเป็นพ่อที่น่าภาคภูมิใจในภายหน้า

(ซึ่งปัญหาในช่วงนี้จะหนักมากๆในฐานะพ่อ-สามี-ความเป็นลูกของเตี่ยและแม่ ความเป็นน้องคนสุดท้องของพี่ๆ ต้องอาศัยองค์ประกอบมากมายก้าวข้ามผ่านพ้นไป โดยเฉพาะ สติ ปัญญา และความเพียร แต่เมื่อผ่านมาได้นี่แหละคือบทเรียนที่ดีที่เราใช้สอนลูกในภายหน้า)
ผู้แต่ง :
ชุมชนคนเรียนธรรม วัดเกาะวาสุการาม
ที่อยู่ :
ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
จำนวนเข้าดู :
495
ปรับปรุงล่าสุด :
2 มิถุนายน พ.ศ. 2561 18:40:20
ข้อมูลเมื่อ :
2 มิถุนายน พ.ศ. 2561 09:08:24