ประกาศนิมนต์พระภิกษุหาที่จำพรรษา เพื่อปฏิบัติธรรม สติปัฏฐาน 4 ณ วัดชากพง
การปฏิบัติธรรม ในการเจริญสติปัฏฐาน 4 กาย เวทนา จิต และธรรม ตลอดพรรษา 3 เดือน
วิธีการปฏิบัติแบบพอง ยุบ มีการสอบอารมณ์
หลักฐานแสดงตน คือ
1. บัตรประชาชน หรือใบสุทธิ หรือในฉายาบัตร
2. ต้องได้รับอนุญาตจากต้นสังกัด
3. มีจริยาวัตรเรียบร้อย
4.ไม่สูบบุหรี และยาเสพติดทุกชนิด
หลักเกณฑ์
หน้าที่ของพระภิกษุในการปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยเเละจริยวัตรอย่างเหมาะสม
การเรียนรู้ถึงหน้าที่ของพระภิกษุในการปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยและจริยาวัตรอย่างเหมาะสมหน้าที่ของพระภิกษุ พระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นบรรพชิตในพระพุทธศาสนา มีหน้าที่ศึกษา ปฏิบัติธรรม เผยแผ่คำสอน สืบต่อพระพุทธศาสนามีคุณธรรมและหลักความประพฤติที่ต้องปฏิบัติมากมาย ได้แก่
1. ปริยัติ ได้แก่ การศึกษา พระภิกษุมีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เป็นผู้มีความรู้ ความจำ ซึ่งเกิดจากการสดับตรับฟังมากและการศึกษาเล่าเรียนมามาก จากนั้นก็เริ่มนำพระธรรมวินัยและข้อวัตรปฏิบัติที่เกิดจากการศึกษาเล่าเรียนนั้นมาสั่งสอนพุทธศาสนิกชนโดยนำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเผยแผ่แนะนำให้พุทธศาสนิกชนได้ใช้และยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ
2. ปฏิบัติ พระภิกษุเมื่อได้ศึกษาเล่าเรียนมาแล้วจะมากหรือน้อยก็ตาม ย่อมต้องได้ประพฤติปฏิบัติตนทั้งในด้านพุทธบัญญัติและการอบรมขัดเกลาจิตใจของตนให้สะอาดปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง ปฏิบัติตามหลักธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดไม่ให้บกพร่อง ไม่ให้ด่างพร้อย
3. ปฏิเวธ แปลว่า การรู้แจ้งแทงตลอดในข้อธรรมของพระพุทธเจ้า พระภิกษุเมื่อได้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมย่อมรู้แจ้งแทง ตลอดในพระธรรมวินัยนั้น ได้รับมรรคผลหลังจากที่ได้เพียรพยามปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่มุ่งหวังไว้
หากจะสรุปหน้าที่ของพระภิกษุแล้ว พระภิกษุย่อมมีหน้าที่ที่สำคัญ 2 ประการ ดังนี้
1. คันถธุระ ได้แก่ การศึกษาเล่าเรียน
2. วิปัสสนาธุระ ได้แก่ การปฏิบัติเพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริงตามสภาวะต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม พระภิกษุนอกจากจะทำหน้าที่ทั้งสามประการแล้ว ยังต้องควรได้ช่วยเหลือสังคม ด้วยการช่วยพัฒนาท้องถิ่นกันดารต่าง ๆ ช่วยบูรณะซ่อมแซมเสนาสนะอันเป็นสมบัติทางศาสนา ช่วยพัฒนาสาธารณประโยชน์พื้นฐานของสังคมควบคู่ไปกับการพัฒนาศาสนา และอนุเคราะห์ให้กุลบุตรกุลธิดาได้ศึกษาเล่าเรียนตามความเหมาะสมอีกด้วย
1. ปริยัติ ได้แก่ การศึกษา พระภิกษุมีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เป็นผู้มีความรู้ ความจำ ซึ่งเกิดจากการสดับตรับฟังมากและการศึกษาเล่าเรียนมามาก จากนั้นก็เริ่มนำพระธรรมวินัยและข้อวัตรปฏิบัติที่เกิดจากการศึกษาเล่าเรียนนั้นมาสั่งสอนพุทธศาสนิกชนโดยนำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเผยแผ่แนะนำให้พุทธศาสนิกชนได้ใช้และยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ
2. ปฏิบัติ พระภิกษุเมื่อได้ศึกษาเล่าเรียนมาแล้วจะมากหรือน้อยก็ตาม ย่อมต้องได้ประพฤติปฏิบัติตนทั้งในด้านพุทธบัญญัติและการอบรมขัดเกลาจิตใจของตนให้สะอาดปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง ปฏิบัติตามหลักธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดไม่ให้บกพร่อง ไม่ให้ด่างพร้อย
3. ปฏิเวธ แปลว่า การรู้แจ้งแทงตลอดในข้อธรรมของพระพุทธเจ้า พระภิกษุเมื่อได้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมย่อมรู้แจ้งแทง ตลอดในพระธรรมวินัยนั้น ได้รับมรรคผลหลังจากที่ได้เพียรพยามปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่มุ่งหวังไว้
หากจะสรุปหน้าที่ของพระภิกษุแล้ว พระภิกษุย่อมมีหน้าที่ที่สำคัญ 2 ประการ ดังนี้
1. คันถธุระ ได้แก่ การศึกษาเล่าเรียน
2. วิปัสสนาธุระ ได้แก่ การปฏิบัติเพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริงตามสภาวะต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม พระภิกษุนอกจากจะทำหน้าที่ทั้งสามประการแล้ว ยังต้องควรได้ช่วยเหลือสังคม ด้วยการช่วยพัฒนาท้องถิ่นกันดารต่าง ๆ ช่วยบูรณะซ่อมแซมเสนาสนะอันเป็นสมบัติทางศาสนา ช่วยพัฒนาสาธารณประโยชน์พื้นฐานของสังคมควบคู่ไปกับการพัฒนาศาสนา และอนุเคราะห์ให้กุลบุตรกุลธิดาได้ศึกษาเล่าเรียนตามความเหมาะสมอีกด้วย
จริยาวัตรของภิกษุ
พระภิกษุนอกจากจะมีหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ยังต้องมีจริยาวัตร ได้แก่ การหมั่นพิจารณาตนเอง คือ พิจารณาเตือนใจตนเองอยู่เสมอตามหลัก ปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณ์ (ธรรมที่บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ ) ได้แก่ มีความเป็นอยู่ง่าย บริโภคปัจจัย 4 โดยพิจารณา ไม่บริโภคด้วยตัณหา มีอากัปกิริยาที่เรียบร้อยดีงามเหมาะสมกับสมณสารูปหมั่นพิจารณาตัวเองว่าตนเองและเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายยังติเตียนตนเองโดยศีลไม่ได้อยู่หรือไม่ ทุกคนจักต้องพลัดพรากจากของที่รักที่ชอบใจ มีกรรมเป็นของตนไม่สามารถหลีกหนีได้ ไม่ตกอยู่ในความประมาท ไม่ปล่อยเวลาให้ปราศจากประโยชน์ ยินดีในที่สงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ เป็นต้น
ฉะนั้น พุทธศาสนิกชนผู้นับถือพระพุทธศาสนาว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก เมื่อได้เรียนรู้หน้าที่และจริยาวัตรของพระภิกษุสามเณรเช่นนี้แล้ว จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะได้นำหน้าที่และจริยาวัตรของท่านมาเป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้แก่
1. การศึกษาเล่าเรียน ศึกษาค้นคว้าหาความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ
2. การประพฤติปฏิบัติในหลักธรรมที่ถูกต้องดีงาม เป็นไปเพื่อประโยชน์ตนเองและส่วนรวม ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ใคร ๆ
3. การปฏิบัติสมาธิ ให้จิตใจมีความสงบร่มเย็น มีสติอยู่กับตัว ระลึกได้อยู่ตลอดเวลา
4. การหมั่นพิจารณาตนเอง ประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่ ไม่ให้ฟุ้งเฟ้อจนเกินไป
5. การพิจารณาตนเองว่าอะไรทำแล้ว อะไรยังไม่ได้ทำ ไม่ให้ตกอยู่ในความประมาท
กำนดการปฏิบัติธรรม
กำหนดการปฏิบัติธรรมโครงการปฏิบัติธรรมตลอดพรรษา ปี ๒๕๖๓
“หลักสูตรโปรแกรมสติปัฏฐาน ๔ ( พอง ยุบ)”
สำนักปฏิบัติธรรม วิปัสสนาปฏิปทาอริยวงศ์ วัดชากพง
วันที่หนึ่ง ของการปฏิบัติธรรม
วันที่สุดท้ายโครงการการปฏิบัติธรรม
หมายเหตุ :
กำหนดการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของพระวิปัสสนาจารย์เพื่อปรับอินทรีย์ ให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อเอื่อให้แด่ผู้ปฏิบัติในความก้าวหน้าแห่งธรรม
๑. ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้ามาใช้ในห้องปฏิบัติธรรม
๓. ห้ามออกนอกสถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
๔. ฝึกการตรงต่อเวลา -สงบสำรวม กาย วาจา ใจ -
๕. ผู้ปฏิบัติธรรมไม่เข้าตามระยะกำหนดเวลา พระวิปัสสนาจารย์ก็จะเชิญให้กลับ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่น ๆ
๖. ปิดไฟ เวลา ๒๓.๐๐ น.
พระภิกษุนอกจากจะมีหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ยังต้องมีจริยาวัตร ได้แก่ การหมั่นพิจารณาตนเอง คือ พิจารณาเตือนใจตนเองอยู่เสมอตามหลัก ปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณ์ (ธรรมที่บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ ) ได้แก่ มีความเป็นอยู่ง่าย บริโภคปัจจัย 4 โดยพิจารณา ไม่บริโภคด้วยตัณหา มีอากัปกิริยาที่เรียบร้อยดีงามเหมาะสมกับสมณสารูปหมั่นพิจารณาตัวเองว่าตนเองและเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายยังติเตียนตนเองโดยศีลไม่ได้อยู่หรือไม่ ทุกคนจักต้องพลัดพรากจากของที่รักที่ชอบใจ มีกรรมเป็นของตนไม่สามารถหลีกหนีได้ ไม่ตกอยู่ในความประมาท ไม่ปล่อยเวลาให้ปราศจากประโยชน์ ยินดีในที่สงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ เป็นต้น
ฉะนั้น พุทธศาสนิกชนผู้นับถือพระพุทธศาสนาว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก เมื่อได้เรียนรู้หน้าที่และจริยาวัตรของพระภิกษุสามเณรเช่นนี้แล้ว จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะได้นำหน้าที่และจริยาวัตรของท่านมาเป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้แก่
1. การศึกษาเล่าเรียน ศึกษาค้นคว้าหาความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ
2. การประพฤติปฏิบัติในหลักธรรมที่ถูกต้องดีงาม เป็นไปเพื่อประโยชน์ตนเองและส่วนรวม ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ใคร ๆ
3. การปฏิบัติสมาธิ ให้จิตใจมีความสงบร่มเย็น มีสติอยู่กับตัว ระลึกได้อยู่ตลอดเวลา
4. การหมั่นพิจารณาตนเอง ประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่ ไม่ให้ฟุ้งเฟ้อจนเกินไป
5. การพิจารณาตนเองว่าอะไรทำแล้ว อะไรยังไม่ได้ทำ ไม่ให้ตกอยู่ในความประมาท
กำนดการปฏิบัติธรรม
กำหนดการปฏิบัติธรรมโครงการปฏิบัติธรรมตลอดพรรษา ปี ๒๕๖๓
“หลักสูตรโปรแกรมสติปัฏฐาน ๔ ( พอง ยุบ)”
สำนักปฏิบัติธรรม วิปัสสนาปฏิปทาอริยวงศ์ วัดชากพง
วันที่หนึ่ง ของการปฏิบัติธรรม
เวลา | ปฏิบัติธรรม | ผู้รับผิดชอบ |
๐๘.๐๐ - ๑๓.๐๐ น. | จัดสัมภาระเข้าที่พัก / จัดระเบียบแถวในห้องประชุม | เจ้าหน้าที่ลงทะเบียน |
๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ | พิธีเปิด -ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย/กล่าวบูชาพระรัตนตรัย - ผู้จัดโครงการกล่าวรายงาน - ประธานในพิธีกล่าวให้โอวาท และกล่าวเปิดโครงการ พิธีมอบตัวเป็นศิษย์ - พระภิกษุปลงอาบัติ - ขึ้นพระกัมมัฏฐาน มอบตัวเป็นศิษย์ต่อพระวิปัสสนาจารย์ - ประธานฝ่ายสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถาขึ้น - ทำแบบทดสอบประเมินตนเอง - สวดมนต์ - บรรยายหลักธรรมการปฏิบัติเบื้องต้น |
พระวิปัสสนาจารย์ |
๑๖.๐๐ – ๑๗.๐๐ | ดื่มน้ำปานะ | |
๑๗.๐๐ – ๑๘.๐๐ | อาบน้ำทำภารกิจส่วนตัวกำหนดอิริยาบถย่อย | |
๑๘.๐๐ - ๑๙.๐๐ | ทำวัตรเย็นแปล | |
๑๙.๐๐ - ๒๐.๐๐ | บรรยายธรรมภาคปฏิบัติ | |
๒๐.๐๐ – ๒๒.๐๐ | ปฏิบัติธรรม | |
วันที่ ๒ - วันสุดท้าย |
||
๐๓.๓๐ | สัญญาณระฆัง - ทำความสอาดสรีระ | |
๐๔.๐๐ - ๐๖.๐๐ | ทำวัตรเช้า เจริญภาวนาพรหมวิหาร ๔ | |
๐๖.๐๐ - ๐๘.๐๐ | บิณบาตร - ฉันเช้า | ***ใช้ชีวิตปกติ*** |
๐๘.๐๐ - ๑๓.๐๐ | ทำความสะอาดวัด กำหนดอิรยาบถย่อย ในการทำกิจวัตรประจำวัน | |
๑๐.๓๐ | ฉันภัตตาหาร | |
๑๓.๐๐ - ๑๗.๐๐ | ปฏิบัติธรรมรวมที่ศาลา | |
๑๗.๐๐ - ๑๘.๐๐ | ฉันน้ำปานะ ทำความสะอาดสรีระ | |
๑๘.๐๐- ๑๙.๐๐ | ทำวัตรเย็นแปล | |
๑๙.๐๐ - ๒๒.๐๐ | ปฏิบัติธรรมเจริญสติปัฏฐาน ๔ | |
๒๒.๐๐ – ๐๓.๓๐ | จำวัด - ตื่นนอน ทำความสอาดสรีระ |
วันที่สุดท้ายโครงการการปฏิบัติธรรม
เวลา | ปฏิบัติธรรม | ผู้รับผิดชอบ |
๑๓.๐๐ – ๑๔.๐๐ | พิธีปิด - ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย - เจ้าของโครงการกล่าวสรุปผลโครงการ (ประธานมอบวุฒิบัตร) - ประธานให้โอวาท และกล่าวปิดโครงการ - ทำแบบทดสอบ (หลัง) - กราบลาพระรัตนตรัย - พักผ่อน |
หมายเหตุ :
กำหนดการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของพระวิปัสสนาจารย์เพื่อปรับอินทรีย์ ให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อเอื่อให้แด่ผู้ปฏิบัติในความก้าวหน้าแห่งธรรม
๑. ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้ามาใช้ในห้องปฏิบัติธรรม
๓. ห้ามออกนอกสถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
๔. ฝึกการตรงต่อเวลา -สงบสำรวม กาย วาจา ใจ -
๕. ผู้ปฏิบัติธรรมไม่เข้าตามระยะกำหนดเวลา พระวิปัสสนาจารย์ก็จะเชิญให้กลับ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่น ๆ
๖. ปิดไฟ เวลา ๒๓.๐๐ น.
ติดต่อได้ที่นี้
https://kampithep.blogspot.com/
ประวัติประธานพระวิปัสสนาจารย์
ชื่อ : พระคัมภีร์เทพ ธมฺมิโก (วรรธน์นศรี) https://www.vipassanathai.org/main.php?url=monk
ว/ ด/ ป เกิด : ๐๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๒
สถานที่เกิด : กรุงเทพมหานคร
การศึกษา : นักธรรมเอก เลขที่ ๒๓๖๒/๐๑๕๕ ปี ๒๕๖๒ สำนักเรียน วัดสพานสูง จังหวัดนนทบุรี
: ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต MBA ปี ๒๕๕๕ สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี
: ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิปัสสนาภาวนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย บาฬีศึกษาพุทธโฆส วิทยาเขตนครปฐม ปี ๒๕๖๐
: ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต MBA ปี ๒๕๕๕ สาขาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี
: ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิปัสสนาภาวนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย บาฬีศึกษาพุทธโฆส วิทยาเขตนครปฐม ปี ๒๕๖๐
: กำลังศึกษาปริญาญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพุทธจิตวิทยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย พระนครศรีอยุธยา
ประสบการณ์
: เลขานุการพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิปัสสนาภาวนา รุ่นที่ ๑๐ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย บาฬีศึกษาพุทธโฆส วิทยาเขตนครปฐม
: พระวิปัสสนาจารย์สอนกัมมัฏฐานนิสิต โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปี ๒๕๕๗ มจร. วังน้อยฯ
: พระวิปัสสนาจารย์ โครงการอุปสมบท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ๒๕๕๘
: นำวิปัสสนากัมมัฏฐานสู่พระนวกะ ๒๕๕๖ คณะสงฆ์อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
: สัมมนาพระวิปัสสนาจารย์เพื่อการสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานสำหรับนิสิต ๒๕๕๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา
: พระนิเทศวิถีพุทธ รุ่น 2 โครงการการศึกษาและพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธ ๒๕๕๘ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา
: คณะกรรมการตรวจโรงเรียนวิถีพุทธ โรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ และโรงเรียนวิถีพุทธพระราชทานฯ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา
: สัมมนาพระวิปัสสนาจารย์เพื่อการสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานสำหรับนิสิต ๒๕๕๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา
: พระนิเทศวิถีพุทธ รุ่น 2 โครงการการศึกษาและพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธ ๒๕๕๘ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา
: คณะกรรมการตรวจโรงเรียนวิถีพุทธ โรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ และโรงเรียนวิถีพุทธพระราชทานฯ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา
: พระวิปัสสนาจารย์ โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ
: พระวิปัสสนาจารย์ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนนทบุรี แห่งที่ ๗ วัดสพานสูง
: คณะกรรมการฝึกอบรมกิจกรรม สำนักปฏิบัติธรรมแห่งที่ ๗ วัดสพานสูง
: คณะกรรมการโครงการ ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดสพานสูง
: คณะกรรมการคุมสอบนักธรรมศึกษา สนามหลวง
: คณะกรรมการร่างหลักสูตรวิปัสสนากัมมัฏฐานพัฒนาวิถีพุทธ
: พระวิปัสสนาจารย์และเลขานุการ โครงการกัมมัฏฐานนิสิตทุกชั้นปี ปริญญาตรี, ปริญญาโท และปริญญาเอกระหว่างวันที่ ๑๖-๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๐มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ส่วนกลาง) ประจำปี ๒๕๖๐
: ประธานพระวิปัสสนาจารย์วิถีพุทธ แต่งตั้งโดยคณะกรรมการโรงเรียนวิธีพุทธ ที่ประชุม ที่ พิเศษ ๐๑/๒๕๖๑ ในวันที่ ๒๔ เมษยน ๒๕๖๑ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ส่วนกลาง) พระนครศรีอยุธยา
: พระวิปัสสนาจารย์และเลขานุการ โครงการกัมมัฏฐานนิสิตทุกชั้นปี ปริญญาตรี, ปริญญาโท และปริญญาเอกระหว่างวันที่ ๑๖-๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๐มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ส่วนกลาง) ประจำปี ๒๕๖๐
: ประธานพระวิปัสสนาจารย์วิถีพุทธ แต่งตั้งโดยคณะกรรมการโรงเรียนวิธีพุทธ ที่ประชุม ที่ พิเศษ ๐๑/๒๕๖๑ ในวันที่ ๒๔ เมษยน ๒๕๖๑ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ส่วนกลาง) พระนครศรีอยุธยา
: อดีตประธานพระวิปัสสนาจารย์วิถีพุทธ ลาออกวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖
: พระสอนศีลธรรม สำนักพระสอนศีลธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประจำโรงเรียนวัดสพานสูง (รถไฟนุเคราะห์) ตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ – ปัจจุบัน
: ประธานโครงการสร้างพระไตรปิฏก “โครงการ หนึ่งปี หนึ่งชุดพระไตรปิฏก” ปี ๒๕๕๙ – ปัจจุบัน
: พระวิปัสสนาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครปฐม โครงการปฏิบัติธรรมนิสิต ป.บส. ปริญญาตรี ปรีญญาโท ปี ๒๕๖๑
: พระวิปัสสนาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย โครงการปฏิบัติธรรมนิสิต ป.บส. ปริญญาตรี ปริญญาโท ปี ๒๕๖๑
: พระสอนศีลธรรมแกนนำภาคกลาง รุ่นที่ ๒/๑ สำนักพระสอนศีลธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย พระนครศรีอยุธยา
: คณะกรรมการพระสอนศีลธรรม แบบไฝ่เรียนรู้ Active Learning มหาวิทยาลัยมหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย พระนครศรีอยุธยา ปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔
: ประธานสงฆ์ดอนรัง ที่พักสงฆ์ดอนรัง ตำบลหนองกะท้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ๖๕๑๒๐ ปี ๒๕๖๑-ปัจจุบัน
: คณะกรรมการพระสอนศีลธรรม พระวิทยากรกระบวนการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย พระนครศรีอยุธยาปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕
: ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดชากพง ปี ๒๕๖๕๓
: พระสอนศีลธรรม สำนักพระสอนศีลธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประจำโรงเรียนวัดสพานสูง (รถไฟนุเคราะห์) ตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ – ปัจจุบัน
: ประธานโครงการสร้างพระไตรปิฏก “โครงการ หนึ่งปี หนึ่งชุดพระไตรปิฏก” ปี ๒๕๕๙ – ปัจจุบัน
: พระวิปัสสนาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครปฐม โครงการปฏิบัติธรรมนิสิต ป.บส. ปริญญาตรี ปรีญญาโท ปี ๒๕๖๑
: พระวิปัสสนาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย โครงการปฏิบัติธรรมนิสิต ป.บส. ปริญญาตรี ปริญญาโท ปี ๒๕๖๑
: พระสอนศีลธรรมแกนนำภาคกลาง รุ่นที่ ๒/๑ สำนักพระสอนศีลธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย พระนครศรีอยุธยา
: คณะกรรมการพระสอนศีลธรรม แบบไฝ่เรียนรู้ Active Learning มหาวิทยาลัยมหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย พระนครศรีอยุธยา ปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔
: ประธานสงฆ์ดอนรัง ที่พักสงฆ์ดอนรัง ตำบลหนองกะท้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ๖๕๑๒๐ ปี ๒๕๖๑-ปัจจุบัน
: คณะกรรมการพระสอนศีลธรรม พระวิทยากรกระบวนการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตส่วนกลางวังน้อย พระนครศรีอยุธยาปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕
: ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดชากพง ปี ๒๕๖๕๓
อุปสมบท : ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ อุโบสถวัดสพานสูง
สังกัด : วัดสพานสูง ๔๙ ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เบอร์โทร : ๐๙๕-๕๖๙-๖๔๔๘ , ๐๘๘-๙๖๐-๙๘๙๖
E-mail. : kampithep@gmail.com, kampithep@hotmail.com
โดย :
ที่อยู่ :
ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง
จำนวนเข้าดู :
1785
ปรับปรุงล่าสุด :
28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 18:22:35
ข้อมูลเมื่อ :
9 มิถุนายน พ.ศ. 2563 21:03:24